การวินิจฉัยโรคอ้วนทางอินเทอร์เน็ต



ปัจจุบัน โรคอ้วนเป็นปัญหาสุขภาพในหลายๆ ประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วเนื่องจากแนวทางการใช้ชีวิตและ ลักษณะการบริโภคอาหารที่เปลี่ยนไปส่งผลให้ผู้คนส่วนใหญ่ต้องหันมารับประทาน อาหารแบบจานด่วนมากขึ้นทั้งยังมีเวลาในการออกกำลังกายน้อยลง นอกจากนี้มีงานวิจัยหลายฉบับที่แสดงให้เห็นว่าโรคอ้วนมีส่วนทำให้เกิดโรค อื่นๆอีกมากมายเช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน และโรคหัวใจ เป็นต้น

การสำรวจภาวะโภชนาการของประเทศไทยที่ผ่านๆ มาได้ใช้วิธีการชั่งน้ำหนักและวัดสัดส่วนสูงในการคำนวนค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index) เพื่อวัดว่าอ้วนหรือผอม แต่ขณะเดียวกันก็มีงานวิจัยที่เสนอว่ารอบเอวเป็นตัวแปรที่ดีกว่าค่าดัชนีมวล กายในการคาดการณ์ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน ปัจจุบันวงการแพทย์ทั้งใน และต่างประเทศต่างกำลังสนใจศึกษาหาตัวแปรอื่นๆ ที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคเหล่านี้เพื่อใช้คาดการณ์ความเสี่ยงต่อการ เป็นโรคต่างๆ ให้แม่นยำยิ่งขึ้น

จากที่กล่าวมาข้างต้นทำให้เห็นว่าปัญหาโรคอ้วนนี้เป็น ปัญหาใหญ่สำหรับประเทศ และต้องมีการรณรงค์เพื่อให้ประชาชนหันมาเอาใจใส่กับสุขภาพของตนเอง ในขณะเดียวกันผู้ที่อยู่ในภาวะโรคอ้วนอยู่แล้วจำเป็นต้องรับคำแนะนำจากแพทย์ และนักโภชนาการอย่างสม่ำเสมอเพื่อควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ดังนั้นการแก้ไขปัญหานี้จึงเป็นเรื่องที่ยากและมีค่าใช้จ่ายสูง

การวินิจฉัยโรคอ้วนทางอินเทอร์เน็ต

ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ร่วมกับหน่วยโภชนวิทยา และชีวเคมีทางการแพทย์สำนักงานวิจัยคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้จัดทำกิจกรรมนำร่องการตรวจสุขภาพภายในสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยใช้เครื่องตรวจวัดเรือนร่างสามมิติ (3D Body Scanner) ร่วมกับเครื่องวัดองค์ประกอบในร่างกาย (Body Composition Monitor) และผลตรวจเลือด โดยข้อมูลที่ได้จะสามารถนำมาวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่ได้กล่าวมา แล้วข้างต้น และค้นหาตัวแปรที่ทำให้เกิดความเสี่ยงนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนทางสุขภาพของประชาชนไทยและเพิ่มความก้าวหน้า ในวงการแพทย์ต่อไป

เครื่องตรวจวัดเรือนร่างสามมิติ หรือ 3D Body Scanner ใช้ เทคโนโลยีริ้วเเสง ทำงานโดยสร้างแถบเเสงขาวที่เรียงตัวกันเป็นแนว ฉายลงบนพื้นผิวร่างกายจากรอบทิศทาง จากนั้นเซ็นเซอร์ที่มีอยู่รอบเครื่องทำการตรวจจับภาพรูปร่างของริ้วแสงทั้ง หมดที่ปรากฏบนพื้นผิวร่างกายจากรอบทิศทาง ภาพเหล่านั้นจะถูกประมวลผลโดยซอฟต์แวร์เพื่อคำนวณและสร้างออกมาเป็นแบบจำลอง วัตถุรูปทรงสามมิติในคอมพิวเตอร์ซึ่งทำให้การวัดสัดส่วนและรูปร่างของผู้คน จำนวนมากเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ในเวลาน้อยกว่า 1 นาทีต่อการสแกนหนึ่งครั้ง เครื่องสามารถสแกนเก็บข้อมูลรูปร่างเป็นภาพสามมิติและบันทึกขนาดสัดส่วนของ ร่างกายได้มากกว่า 140 ตำแหน่ง

เครื่องวัดองค์ประกอบในร่างกาย (Body Composition Monitor) เป็นเครื่องที่ใช้กระแสไฟฟ้าต่ำไหลผ่านเข้าสู่ร่างกายแล้ววัดความต้านทานต่อ การไหลของกระแสในเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกายโดยสามารถวิเคราะห์ส่วนประกอบของร่างกายอย่างละเอียด ทั้งในส่วนของมวลกระดูก กล้ามเนื้อ ไขมัน ปริมาณน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย ความสมดุลและความแข็งแรงของร่างกาย นอกจากนี้ยังสามารถประเมินภาวะโภชนาการของร่างกาย รวมทั้งคำนวณปริมาณไขมันในร่างกาย โดยเฉพาะไขมันในช่องท้อง ตลอดจนวินิจฉัยภาวะสุขภาพโดยรวม รูปที่1 แสดงภาพเครื่องวัดองค์ประกอบในร่างกายและเครื่องตรวจวัดเรือนร่างสามมิติ



ในการทำกิจกรรมนี้โครงการ SizeThailand ได้พัฒนาระบบ SizeThailand e-Health เพื่อใช้ในการสร้างคลังข้อมูลสุขภาพคนไทยและวินิจฉัยโรคอ้วนทางอินเตอร์เน็ต โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถ log in เข้าสู่ระบบเพื่อดูข้อมูลของตนเองผ่านทางเว็บไซต์ ข้อมูลที่แสดงประกอบด้วยค่าวัดตำแหน่งต่างๆบนร่างกายและภาพสรีระแบบ 3 มิติที่ได้จากเครื่องตรวจวัดเรือนร่างสามมิติ ผลตรวจจากเครื่องวัดองค์ประกอบในร่างกายและผลการตรวจสุขภาพรวมทั้งผลการเจาะ เลือด นอกจากนี้ข้อมูลจะถูกส่งไปให้แพทย์และนักโภชนาการได้ทำการวินิจฉัยโรคอ้วน และกรอกผลผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งผลการวินิจฉัยและคำแนะนำในการดูแลสุขภาพจะถูกส่งกลับไปให้เจ้าของข้อมูล แต่ละคนดังที่แสดงในรูปที่ 2



นอกจากนี้ระบบยังทำการเปรียบเทียบข้อมูลการตรวจสุขภาพ ในแต่ละครั้งเพื่อแสดงการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างได้อย่างชัดเจน โดยผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเลือกดูการเปลี่ยนแปลงของค่าวัดตำแหน่งต่างๆ ของร่างกาย และ แสดงการเปลี่ยนแปลงของสรีระแบบ 3 มิติ โดยสีแดงแสดงรูปร่างของปี 2551 และสีเขียวแสดงรูปร่างของปี 2552 จะเห็นได้ว่าผู้เข้าร่วมโครงการท่านนี้มีรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน

บทสรุป

ระบบ SizeThailand e-Health เป็นอีกทางเลือกในการติดตามสุขภาพของผู้ที่อยู่ในภาวะโรคอ้วนเนื่องจากผลการ ตรวจในแต่ละครั้งจะแสดงผ่านทางเว็บไซต์จึงประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการรอ ฟังผลและพบแพทย์ อีกทั้งการแสดงรูปภาพสรีระแบบ 3 มิติ จะช่วยกระตุ้นให้ผู้เข้ารับการตรวจหันมาเอาใจใส่กับสุขภาพมากขึ้นเนื่องจาก สามารถเห็นรูปร่างที่แท้จริงของตนเอง ที่สำคัญข้อมูลที่ถูกเก็บในระบบจะสามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อเพิ่มความก้าว หน้าในงานวิจัยทางการแพทย์ต่อไป

ดร.สุปิยา เจริญศิริวัฒน์
ข้อมูลจาก www.nectec.or.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น